แกงผักเสี้ยว – อาหารพื้นบ้านล้านนาที่ต้องหาลอง

ผักเสี้ยว หรือเรียกชื่ออื่น ๆ เช่น เสี้ยวดอกแดง เสี้ยวหวาน ชงโค เป็นต้น ผักเสี้ยวนิยมนำยอดอ่อนมาแกงกับปลาแห้ง มะเขือเทศ โดยมีส่วนประกอบของเครื่องแกง ได้แก่ พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง เกลือป่น กะปิ และอื่นๆตามการประยุกต์ของแต่ละพื้นที่ ซึ่งทางเราจะขอยกเอาคุณประโยชน์ของส่วนประกอบหลักๆมานำเสนอ ดังนี้

1. ผักเสี้ยว

เป็นพืชที่มีความสำคัญ เพราะสามารถเป็นยาสมุนไพรใช้กันมาอย่างเนิ่นนาน ซึ่งส่วนที่นิยมนำมาทำแกงผักเสี้ยวคือใบอ่อน ช่วยบำรุงร่างกาย โดยผักเสี้ยว 100 กรัม ให้พลังงาน 47 กิโลแคลอรี และประกอบด้วย สารอาหารคาร์โบไฮเดรต 8.2 กรัม โปรตีน 34 กรัม ไขมัน 1.1 กรัม เส้นใย 1.8 กรัม แคลเซียม 46 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 31 มิลลิกรัม เหล็ก 0.3 มิลลิกรัม วิตามิน A, B1, B2, C และไนอะซีน ที่เป็นสารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายคนเรา

2. มะเขือเทศ

มะเขือเทศ ประกอบด้วย กรดอินทรีย์ น้ำตาล แคโรทีนอยด์ วิตามิน เอ, บี, ซี, อี และอุดมไปด้วยสารไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้เสื่อมสภาพเนื่องจากสารอนุมูลอิสระ และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคมะเร็งได้ ดีต่อสุขภาพผิว ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ช่วยป้องกันมะเร็ง

3. ปลาแห้ง

เนื้อปลา ถือว่าเป็นเนื้อคุณภาพ เหมาะจะนำมาทานได้ทุกเพศ ทุกวัย มีโปรตีนสูงแล้ว ย่อยง่าย ได้ดีกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เป็นต้น และปลาตากแห้งก็ยังมีประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกาย ดังนี้

  1. มีแคลเซียมสูง จากก้างปลาที่ถูกอบจนแห้ง ช่วยบำรุงรักษากระดูกป้องกันกระดูกพรุน ,เพิ่มความแข็งแรงให้ฟัน และช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  2. ช่วยบำรุงสายตา ระบบการมองเห็น ให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ
  3. ช่วยทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
  4. ป้องกันการเกิดเส้นเลือดอุดตัน ลดโอกาสเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดเป็นโรคหัวใจ
  5. ช่วยลดอาการของผู้ที่ป่วย โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  6. ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้

ขอขอบคุณเว็บไซต์อ้างอิงที่เป็นแหล่งข้อมูลด้วยนะครับ คุณสามารถติดตามอ่านบทความนี้ได้ที่

สามารถติดตามข่าวสารหรือบทความได้ที่ Chiangmai Gastronomy Tourism

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *